Beruflich Dokumente
Kultur Dokumente
สารกรองเซรามิกส์
ความหมายของการกรอง
ลักษณะของตัวกลำงหรือสำรกรองมีลักษณะเป็นสำรหรือวัสดุที่มีรูพรุนที่ผิว และอำจ
เป็ น วัตถุ ที่ เป็ น เม็ ด ขนำดเล็ ก มำก เมื่ อวำงเรีย งตั วกัน แล้ วจะท้ ำให้ เกิด ช่ องว่ำงระหว่ำงเม็ ด
พอที่จะให้น้ำไหลผ่ำนไปด้วยแรงโน้มถ่วงของโลกหรืออำศัยแรงกล เช่น แรงดัน และแรงหนี
ศูนย์กลำง ช่วยให้ของเหลวไหลผ่ำนลงไปตำมทิศทำงของน้ำ และสำรกรองจะสำมำรถสกัดกัน
ไม่ให้สิ่งปฏิกูลผ่ำนไปได้ เมื่อจ้ำนวนสิ่งปฏิกูลถูกกักไว้มำกขึนจะท้ำให้รูพรุนของผิว สำรกรองที่
เรียงตัวกันเกิดกำรอุดตันจนท้ำให้น้ำไหลช้ำลง และในที่สุดจะไม่สำมำรถไหลผ่ ำนสำรกรองได้
เรียกว่ำกำรเกิดควำมต้ำนทำนกำรไหลซึ่งโดยปรกติจะเกิดขึนจำกแรงต้ำนทำนของชันปฏิกูล
(cake resistance)
กำรปรับ ปรุ ง ประสิ ท ธิ ภ ำพกำรกรองให้ ดี ยิ่ ง ขึ นจะท้ ำ ได้ โดยลดแรงต้ ำ นทำนจำก
สิ่งปฏิกูลและพยำยำมให้สิ่งปฏิกูลรวมตัวกันไม่แตกสลำยเป็นเศษชินเล็ก ๆ เข้ำไปอุดตำมรูพรุน
โดยกำรเติมสำรชนิดหนึ่งซึ่งมีสมบัติทำงไฟฟ้ำสถิตสำมำรถจับสิ่งปฏิกูลให้รวมตัวกัน ท้ำให้สิ่ง-
ปฏิกูลมีขนำดใหญ่ขึนและถูกกักไว้บนตัวกลำงสำรกรองได้ง่ำย สำรที่เติมเข้ำไปนีเรียกว่ำสำร-
ช่ วยกรอง (polyelectrolyte coagulant aids หรือ filter aids) สำรช่ วยกรองนี ส่วนใหญ่ จ ะมี
ควำมหนำแน่ น ต่้ ำ และเป็ น สำรประกอบซิ ลิ ก ำ เช่ น ดิ น เบำ (diatomaceous earth) ถ่ ำ น
191
ประเภทของการกรอง
ลักษณะของสารกรอง
สำรกรองส้ำหรับกำรท้ำน้ำให้สะอำดจะมีลักษณะเป็นสำรหรือวัสดุที่มีรูพรุนที่ผิวและ
อำจเป็นวัตถุที่เป็นเม็ดขนำดเล็กมำก ๆ ที่เมื่อวำงเรียงตัวกันแล้วจะท้ำให้เกิดมีช่องว่ำงระหว่ำง
เม็ด พอที่จะให้น้ำไหลผ่ำนได้ด้วยแรงโน้มถ่วงของน้ำหนักน้ำ (gravity) หรือผ่ำนไปตำมทิศทำง
ที่น้ำไหลได้ แต่สำรกรองจะสำมำรถสกัดกันไม่ ให้สิ่งปฏิกูลผ่ำนไปได้ ขนำดของสำรกรองที่
เรียงตัวกันมีสภำพเป็นพืนผิวที่มีรูพรุนขนำดเล็กท้ำให้สิ่งปฏิกูลในน้ำไม่สำมำรถลอดผ่ำนไปได้
ไม่ว่ำจะเกิดจำกธรรมชำติหรือเกิดจำกกำรรวมตัว โดยมีสำรเคมีเข้ำไปจับกันเป็นก้อน (flocs)
รวมทังอนุภำคอื่น ๆ ก็ไม่ สำมำรถลอดพ้นไปได้ ทังนีเพรำะขนำดของช่องระหว่ำงเม็ด (pore
opening size) มีขนำดเล็กกว่ำขนำดอนุภำคของสิ่งปฏิกูล ยกเว้นกรณีที่สิ่งปฏิกูลแตกและมี
ขนำดเล็กลงจำกแรงกระแทกกระเทือนของน้ำไหล แต่อย่ำงไรก็ตำมเศษแตกละเอียดลงของ
สิ่งปฏิกูลจะถูกกักกันด้วยช่องเล็ก ๆ ที่ลึกลงไปของสำรกรอง เพรำะเมื่อจ้ำนวนสิ่งปฏิกูลถูกกัก -
กันมำกขึน จะท้ำให้รูพรุนของผิวสำรกรองที่เรียงตัวกันอุดตันจนท้ำให้น้ำไหลช้ำลงและในที่สุด
อำจไหลผ่ำนสำรกรองไม่ได้
ผิวหน้ำชันกรอง นำ้
สำรกรองเป็นส่วนส้ำคัญที่สุดของกำรกรอง ซึ่งตัวกลำงหรือสำรกรองหมำยถึงวัตถุที่มี
รูพรุนที่ยอมให้ของเหลวไหลผ่ำนไปได้แต่จะเก็บกักอนุภำคของแข็งที่แขวนลอยอยู่ในของเหลว
ไว้ ตัวกลำงสำรกรองแบ่งออกได้เป็นหลำยประเภทได้แก่ สำรกรองเส้นใย สำรกรองทรำย สำร-
กรองถ่ำนหินแอนทรำไซต์ สำรกรองถ่ำนไว สำรกรองดินเบำ สำรกรองทรำยเฟอโร และสำร-
กรองเซรำมิกส์
1. สารกรองเส้นใย
สำรกรองเส้นใยนิยมใช้เพื่อกรองควำมขุ่นและตะกอนในของเหลว เส้นใยที่ใช้กรองมี
หลำยชนิด เช่น ไนล่อน เซลลูโลส แก้วฝอย ด้ำย ผ้ำ กระดำษ รวมถึงเส้นใยโลหะ เส้นใย
พวกนีเมื่อทอออกมำเป็นแผ่นหรือเป็นไส้กรองแล้วจะเป็นตัวกลำงที่มีควำมพรุนตัวสูงถึงร้อยละ
90 – 95 แต่แผ่นกรองควรจะมีควำมหนำอยู่ในช่วง 1 – 2 นิว เพื่อให้สำมำรถเก็บกักอนุภำค
ในของเหลวได้ดี ในสมัยก่อนนิยมใช้ผ้ำสักหลำดเป็นตัวกลำงส้ำหรับกรองเพื่อก้ำจัดของเสีย
ในอุตสำหกรรมนมสดอย่ำงแพร่หลำย แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมำใช้แผ่ นกรองที่เป็นผ้ำฝ้ำยแทน
(cotton disc) ส่วนสำรกรองที่ท้ำจำกลินินจะมีควำมแข็งแรงมำกและมีอำยุกำรใช้งำนยำวนำน
แต่เส้ นใยของลินินเมื่ อทอเป็นตัวกลำงส้ำหรับกรองแล้วจะมีควำมหนำแน่นมำกท้ำให้อัตรำ
กำรซึมผ่ำน (permeability) ของของเหลวช้ำกว่ำสิ่งทอชนิดอื่น นอกจำกนี สำรกรองเส้นใยยังมี
สำรกรองที่ทอจำกขนสั ตว์เช่นขนแกะที่ใช้เพื่ อกรองสำรละลำยกรดได้ (ควำมเข้มข้นไม่ เกิน
ร้อยละ 6) และใช้กรองสำรละลำยที่มีควำมหนืดสูงเช่นน้ำมันและน้ำโคลน ส่วนสำรกรองที่เป็น
ไนลอนจะมีควำมทนทำนสูงต่อสำรละลำยอัลคะไลและสำรละลำยอินทรีย์
2. สารกรองทราย
สำรกรองประเภททรำยนิยมใช้กันแพร่หลำยเพรำะหำง่ำยและรำคำถูก โดยเม็ดทรำย
จะช่วยให้ทำงผ่ำนของของเหลวคดเคียวยิ่งขึน ใช้เพื่อกรองควำมขุ่นและตะกอนต่ำง ๆ กำร-
กรองสำมำรถกระท้ำได้ทังแบบอำศัยควำมโน้มถ่วงของโลกและแบบอำศัยควำมดัน ทรำยที่จะ
น้ำมำใช้ควรเลือกขนำดให้เหมำะสมโดยทรำยหยำบจะมีอัตรำกำรซึมผ่ำนสูงกว่ำทรำยละเอียด
แต่ทรำยละเอียดเก็บกักอนุภำคของแข็งได้ดีกว่ำ ควำมหนำของชันทรำยที่ใช้ไม่ควรต่้ำกว่ำ 2
194
สำรละลำยด่ำงทับทิมหรือคลอรีน
7. สารกรองเซรามิกส์
สำรกรองเซรำมิกส์เป็นสำรกรองที่ผลิตขึนมำจำกส่วนผสมของหิน ดิน และทรำย โดย
นิยมขึนรูปเป็นแผ่น (flat plates) และหลอดทรงกระบอก (cylindrical form) แล้วจึงน้ำเข้ำเผำ
ในเตำที่มีอุณ หภูมิสูง (1,000 – 1,400 องศำเซลเซียส) เพื่อให้ส่วนผสมเหล่ำนันหลอมตัวเข้ำ
เกำะกันด้วยพันธะชนิดหนึ่งซึ่งเรียกว่ำพันธะซิลิเกต (silicate bond) ได้เป็นสำรกรองที่มีสมบัติ
ใช้กรองของไหล (fluid) ต่ำง ๆ ได้ดี เพรำะสำรกรองเซรำมิกส์มีรูพรุน (pore size) และควำม-
พรุนตัว (porosity) เหมำะสมที่จะให้ของเหลวไหลผ่ำนไปได้แต่จะสกัดกันอนุภำคของของแข็ง
ที่แขวนลอยอยู่ในของเหลวได้บนผิวหรือภำยในตัวกลำงสำรกรอง
สารกรองเซรามิกส์
ของสำรกรองเซรำมิกส์คือ
1. มีควำมพรุนตัวสูง โดยควำมพรุนตัวเกิดจำกจ้ำนวนรูในปริมำตรทังหมดของ
สำรกรอง ซึ่งขนำดและรูปร่ำงของรูจะแปรเปลี่ยนตำมวิธีกำรผลิตและวัตถุดิบ
2. มีควำมแข็งแกร่ง สำรกรองเซรำมิกส์จะมีควำมต้ำนทำนต่อแรงกดดันทำงกล
(mechanical strength) และทนทำนต่อกำรกัดกร่อนจำกสำรเคมี
3. มีควำมต้ำนทำนต่อกำรเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่ำงกะทันหันจึงสำมำรถน้ำไป
ใช้งำนในที่อุณหภูมิสูงได้
4. มีควำมต้ำนทำนต่อกำรเกิดสนิมและกำรขัดถู (corrosion and abrasion
resistance)
กำรน้ำสำรกรองเซรำมิกส์มำใช้ประโยชน์คือน้ำมำใช้กรองตะกอนและควำมขุ่นของ
ของเหลว นอกจำกนีสำรกรองเซรำมิกส์ที่มีเนือผลิตภัณฑ์เป็นชนิดพอร์สเลน (porcelain) จะใช้
กรองแบคทีเรีย (bacteria) ออกจำกน้ำได้ และในเครื่องมำโนมิเตอร์ (manometer) สำรกรอง
เซรำมิ ก ส์ จ ะใช้ ส้ ำหรับ อุด กั นไม่ ให้ป รอทล้ นออกมำ นอกจำกนี กำรกรองน้ำในท่ อ และในที่
อุณหภูมิสูงนิยมใช้สำรกรองเซรำมิกส์
วัตถุดิบที่ใช้ผลิตสารกรองเซรามิกส์
วัตถุดิบที่ใช้ในอุตสำหกรรมเซรำมิกส์ส่วนใหญ่รวมทังอุตสำหกรรมกำรผลิตสำรกรอง
เซรำมิกส์ได้มำจำกสินแร่ตำมธรรมชำติ เช่น ดินชนิดต่ำง ๆ หินฟันม้ำ หินควอตซ์ ทรำยทะเล
ทัลค์ (talc) หินไพโรฟิลไลต์ (pyrophyllite) หินโดโลไมต์ เป็นต้น นอกจำกนีวัตถุดิบบำงอย่ำง
ได้ จ ำกกำรสกั ด จำกสิ น แร่ธ รรมชำติ และน้ ำมำท้ ำให้ บ ริสุ ท ธิ์ ด้ วยกระบวนกำรทำงเคมี เช่ น
อะลูมินำ ซึ่งได้จำกแร่บอกไซต์ และสำรที่ได้จำกกำรสังเครำะห์เช่นแบเรียมทิทำเนต (barium
titanate) นอกจำกนีมีพวกเฟอร์ไรต์ (ferrite) และสำรอินทรีย์บำงชนิดที่ใช้เป็นตัวช่วยในกำร-
198
1. ดินขาว
ดินขำวหรือที่เรียกว่ำเกำลิน (kaolin) โดยค้ำว่ำเกำลินมำจำกภำษำจีนแปลว่ำภูเขำสูง
ซึ่งเป็นแหล่งก้ำเนิดของดินขำวพบแห่งแรกที่ประเทศจีนจึงอำจเรียกว่ำดินจีน (China clay)
ดินขำวมีหลำยชนิดแตกต่ำงกันไปตำมแหล่งก้ำเนิดที่อยู่บนผิวโลกส่วนใหญ่เป็นดินที่เกิดอยู่ ใน
แหล่งผุพังของหินเดิม (residual clay) จึงเป็นเหตุให้ดินขำวมีขนำดอนุภำคใหญ่ เป็นผลให้มี
ควำมเหนียวน้อย ประกอบด้วยแร่เกำลินไนต์ (kaolinite) มำกกว่ำดินชนิดอื่น ๆ ดินขำวที่ขุด
ขึนมำใช้ในอุตสำหกรรมต่ำง ๆ มี 3 ชนิดคือ
ดินขำวที่มีควำมบริสุทธิ์สูงเผำแล้วได้สีขำวบริสุทธิ์นิยมน้ำมำท้ำผลิตภัณฑ์พอร์สเลน
199
เผำ 450OC
Al2O3 . 2SiO2 . 2H2O (kaolin) 3/2 Al2O3 . 2SiO2 . 2H2O (meta – kaolin)
2. ดินดา
ดิ น ด้ ำ หรื อ ดิ น เหนี ย วขำวเกิ ด จำกดิ น ขำวซึ่ ง ถู ก พั ด พำ (sedimentary clay) ไปตก-
ตะกอนสะสมในแหล่งใหม่ ดินด้ำเป็นดินที่มีขนำดผลึกละเอียดมำกอนุภำคของดินยึดเกำะกัน
ได้ดี มีอินทรียสำรที่มีโครงสร้ำงคล้ำยกับที่พบในถ่ำนหินลิกไนต์เจือปนอยู่ จึงช่วยให้ดินด้ำมี
ควำมเหนียวและท้ำให้มีสีเปลี่ยนไปจำกสีขำวกลำยเป็นสีเทำจนถึงสีด้ำ แต่เมื่อน้ำไปเผำใน
อุ ณ หภู มิ สู ง เนื อดิ น จะมี สี ข ำวถึ ง สี ค รี ม เพรำะอิ น ทรี ย สำรต่ ำ ง ๆ ถู ก เผำไหม้ ห มดไปจำก
องค์ประกอบทำงเคมีของเนือดิน ดินด้ำมีควำมทนควำมร้อนได้ถึง 1,300 องศำเซลเซียสโดย
ไม่บิดเบียว มักเป็นดิ นที่มีคุณภำพดี นิยมน้ำมำใช้ผสมในผลิตภัณฑ์สีขำว เช่น พอร์สเลน
โบนไชนำ และไวท์ เอิร์ทเธิ นแวร์ (white earthenware) ส่วนดิ นด้ำที่มี คุณ ภำพปำนกลำงมี
ทรำยเจือปนอยู่ค่อนข้ำงมำกใช้ท้ำเนือดินที่ขึนรูปด้วยแป้นหมุน ท้ำท่อน้ำ หรือผสมในเนือดินท้ำ
กระเบืองปูพืน
ชื่ อดิ นด้ ำที่เรียกว่ำบอลเคลย์ (ball clay) ได้ม ำจำกวิธี ขุด ดิน จำกเหมื องในประเทศ
อังกฤษ เพื่อสะดวกในกำรล้ำเลียงและกำรขนส่งดินด้ำจึงถูกตัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกบำศก์มี
น้ำหนักโดยประมำณก้อนละ 30 – 35 ปอนด์ (13 – 15 กิโลกรัม) เมื่อล้ำเลียงขึนรถคนงำนจะ
ใช้วิธีโยนรับส่งทีละก้อนแบบโยนลูกบอล (ลูกแตงโม) ส่งต่อกันซึ่งกำรขนถ่ำยลงจำกรถก็ใช้วิธีนี
เช่นเดียวกัน ดินเหนียวจึงถูกเรียกว่ำบอลเคลย์
ในดิ น ด้ำประกอบด้วยแร่เกำลิน ไนต์ เป็ น ส่วนใหญ่ เช่ น เดีย วกับ ดิน ขำวแต่ เป็ น ผลึ ก
เกำลินไนต์ชนิดไม่สมบูรณ์ ในระหว่ำงผลึกมีแร่ธำตุและอินทรียสำรแทรกอยู่ ส่วนประกอบ
ทำงเคมีโดยประมำณของดินด้ำจะมีซิลิกำร้อยละ 40 – 60 อะลูมินำร้อยละ 30 น้ำผลึกและ
อินทรียสำรประมำณร้อยละ 10 นอกจำกนียังมีแร่ธำตุอื่น ๆ ปะปนอยู่ในดินด้ำ เช่น ไทเทเนียม
เฟอร์ริก แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็กซัลเฟต (FeS) โพแทสเซียม และโซเดียม เป็นต้น ดินด้ำ
มีควำมแตกต่ำงกันมำกตำมลักษณะและแหล่งก้ำเนิดจึงท้ำให้ดินด้ำมีสูตรทำงเคมีแตกต่ำงกัน
ดินด้ำทั่วไปมี สู ตรทำงเคมี คื อ Al2O3 . 4SiO2 . 2H2O. 0.1K2O ประกอบด้วยอะลูมินำร้อยละ
20 – 25 ตำมผลวิเครำะห์ทำงเคมี ส่วนดินด้ำส้ำหรับอุตสำหกรรมมี สูตรทำงเคมี คือ Al2O3 .
2SiO2. 2H2O. 0.1K2O มีอะลูมินำร้อยละ 30 – 38 ตำมผลวิเครำะห์ทำงเคมี และถ้ำเป็นดินด้ำ
201
2.1 ขนำดของอนุภำคจะละเอียดมำกหรือน้อยเพียงใดเปลี่ยนแปลงตำมแหล่งที่
พบ หำกถูกพัดพำไปไกลจำกแหล่งเดิมมำกขนำดเม็ดอนุภำคจะละเอียดมำกขึนตำมล้ำดับ
โดยทัว่ ไปมีขนำดเส้นผ่ำศูนย์กลำงประมำณ 0.05 – 1.00 ไมโครเมตร
2.2 ควำมเหนียว ดินด้ำเป็นดินที่ดูดซับน้ำได้มำก ควำมเหนียวจะมำกหรือน้อย
ขึนอยู่กับชนิดของดิน ซึ่งประกอบด้วยหลักส้ำคัญคือปริมำณของอินทรียสำร ขนำดของเม็ดดิน
และวัตถุดิบที่ให้ควำมเหนียว เช่น ดินเบนโทไนต์
2.3 กำรหดตัวเมื่อแห้ง (drying shrinkage) ดินด้ำที่มีทรำยปนอยู่สูงแทบไม่มี
กำรหดตัวเลย แต่ดินด้ำที่มีอินทรียสำรสูงจะมีกำรหดตัวมำกประมำณร้อยละ 13 – 17
2.4 กำรหดตัวหลังเผำ (firing shrinkage) มีกำรหดตัวสูงประมำณร้อยละ 15
เนื่องจำกดินด้ำมีขนำดอนุภำคเล็กมำกจึงมีกำรหดตัวมำกหลังกำรเผำ
2.5 ควำมแข็งแรงของดินเมื่อแห้ง (green strength) ดินด้ำเมื่อแห้งสนิทจะมี
ควำมแข็งแรงสูงประมำณ 100 – 1,000 ปอนด์ต่อตำรำงนิว (psi.)
2.6 สีหลังเผำเป็นสีขำวนวลถึงสีครีม
2.7 มีแร่ธำตุพวกด่ำงและไมกำในดินด้ำท้ำหน้ำที่เป็นตัวหลอมละลำยและช่วยลด
อุณหภูมิในกำรเผำ
มวลสำรในเนือดินในขณะท้ำกำรเผำเป็นผลท้ำให้ผลิตภัณฑ์ มีเนือแน่นเป็นเนือเดียวกันตลอด
แต่อย่ำงไรก็ตำมกำรใช้ดินด้ำในเนือผลิตภัณฑ์ก็มีข้อเสียอยู่บ้ำงคือในดินด้ำมั กมีสิ่งสกปรก
เจือปน (impurity) เช่น เหล็กออกไซด์ ทิเทเนียมออกไซด์ ซึ่งเป็นตัว ท้ำให้ควำมขำวของเนือ-
ผลิตภัณฑ์เสียไป ดินด้ำท้ำให้ควำมโปร่งแสงของผลิตภัณฑ์น้อยลง ดินด้ำมักมีส่วนประกอบ
ไม่ แน่น อนเนื่ องจำกมี สิ่ งเจื อ ปนดังกล่ำวมำแล้วท้ ำให้ เกิดควำมยุ่ งยำกในกำรควบคุม เนือ-
ผลิตภัณฑ์
3. หินเขี้ยวหนุมานหรือควอตซ์
ในผลิตภัณ ฑ์เซรำมิกส์ หินเขียวหนุมำนเปรียบเสมือนโครงกระดูก ส่วนดินท้ำหน้ำที่
เป็นเนือ หินเขียวหนุมำนช่วยท้ำให้ผลิตภัณฑ์แข็งแรงไม่โค้งงอและช่วยท้ำให้กำรหดตัวทังก่อน-
เผำและหลั ง เผำลดลง ในเนื อดิ น ปั้ น ถ้ ว ยชำมชั นดี จ ะมี หิ น เขี ยวหนุ ม ำนผสมอยู่ ร้ อ ยละ
10 – 30 (ปรีดำ พิมพ์ขำวข้ำ, 2532, หน้ำ 78) โดยหินเขียวหนุมำนมีสมบัติตำมตำรำงที่ 6.3
โครงสร้ำงอะตอมของหินเขียวหนุมำนเป็นร่ำงแหสำมมิติเกิดจำกออกซิเจนอะตอมทังสี่
ของเตตรำฮีดรอน (tetrahedron) หลำย ๆ รูปเชื่อมโยงกันอย่ำงต่อเนื่อง กำรเชื่อมโยงกันเช่นนี
ท้ำให้ผลึกแข็งแรงดังนันหินเขียวหนุมำนจึงจัดเป็นพวกซิลิเกตมำกกว่ำพวกออกไซด์ พันธะของ
มันแข็งแรงมำกจึงท้ำให้มันมีจุดหลอมตัวสูงมำก แหล่งของหินเขียวหนุมำนในประเทศไทยเช่น
จังหวัดจันทบุรี นอกจำกนีทรำยทะเลหลำยแห่งในประเทศไทยซึ่งมีส่วนประกอบทำงเคมีเป็น
SiO2 ในปริมำณสูงเช่น จังหวัดระยอง และจังหวัดสงขลำ เป็นต้น
หิน เขียวหนุม ำนที่ ใช้ ในอุต สำหกรรมมี ชื่ อเรีย กว่ำพอตเตอร์ฟ รินต์ (potter’s flint) มี
ขนำดอนุภำคต่้ำกว่ำ 30 ไมโครเมตร โดยเฉลี่ยร้อยละ 50 กำรควบคุมขนำดของอนุภำคของ
หินเขียวหนุมำนมีควำมส้ำคัญ เนื่องจำกขนำดมีอิทธิพลต่อสมบัติของผลิตภัณฑ์ทังก่อนและ
หลังกำรเผำ
204
4. ดินเบา (diatomite)
ดิ น เบำหรื อ ไดอะโตไมต์ เป็ น แร่ ที่ มี น้ ำ หนั ก เบำมำก จั ด อยู่ ในจ้ ำ พวกหิ น ซิ ลิ เชี ย ส
(siliceous) ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยซำกของไดอะตอม (diatoms) เป็นส่วนใหญ่ โดยไดอะตอม
พวกนี เป็ นจุ ล ชี พ สำหร่ำยพวกบำซิ ลลำเรีย (bacillaria) แขวนตัวอยู่ทั งในน้ำจื ด และน้ำเค็ ม
ผสมกับวัสดุอื่น ๆ เช่น ดิน คำร์บอเนต หรือซิลิกำ แหล่งก้ำเนิดของแร่ดินเบำคือไดอะตอมที่
ยังมีชีวิตอยู่ โดยไดอะตอมหรือต้นพืชไร้ดอกขนำดเล็กชนิดนีมีควำมสำมำรถในกำรแยกซิลิกำ
ออกจำกของเหลวในตั ว มั น เองแล้ ว น้ ำ มำสร้ำ งเปลื อ กหุ้ ม ตั ว ซึ่ ง เป็ น พวกอะมอร์ฟั ส ซิ ลิ ก ำ
(amorphous silica) เป็ น ส่ ว นใหญ่ เมื่ อ ไดอะตอมตำยก็ จ ะตกลงสู่ ท้ อ งน้ ำ ทั บ ถมกั น
เช่นเดียวกับตะกอนทังหลำย ส่วนที่เป็นอินทรียวัตถุจะสลำยตัวไปหมดหรืออำจจะคงเหลืออยู่
บ้ำงภำยใต้สภำวะที่เหมำะสมต่อกำรสะสมตัว ซำกเหล่ำนีจะสะสมจนมีควำมหนำมำกขึน
และค่อย ๆ จับตัวกันแน่นเข้ำจนกลำยเป็นแหล่งดินเบำ เมื่อ แหล่งที่เกิดกำรสะสมของซำกได
อะตอมนีถูกยกตัวขึนพ้นระดับน้ำ มีกำรช้ำระล้ำงท้ำลำยเป็นตะกอนและเกิดกำรทับถมสะสม
ตัวใหม่ กลำยเป็นแหล่งแร่ที่น่ำสนใจในปัจ จุบัน กำรสะสมตัวที่อยู่ใต้ผืนน้ำไม่ ถูกยกตัวพ้น
ระดับน้ำขึนมำจะมีควำมส้ำคัญทำงด้ำนเศรษฐกิจก็ต่อเมื่อแหล่งสะสมนันมีขนำดใหญ่เพียงพอ
และเป็ น แร่บ ริสุ ท ธิ์ แหล่ ง สะสมจะมี ข นำดใหญ่ มั ก เกี่ ย วข้ อ งกั บ หิ น ภู เขำไฟหนึ่ ง ชนิ ด หรือ
มำกกว่ำ สรุปได้ว่ำสำรละลำยซิลิกำจำกแหล่งต้นก้ำเนิดจะต้องให้ซิลิกำเป็นเวลำนำนเพื่อให้ได้
ชันหินชนิดนีในบริเวณควำมลึกมำก ๆ
ส่วนประกอบทำงเคมีของดินเบำบริสุทธิ์ป ระกอบด้วยไฮดรัสซิลิกำ (hydrous silica)
กับสำรอนินทรีย์อื่น ๆ เล็กน้อย เช่น อะลูมินำ เหล็ก อัลคะไล เป็นต้น ดินเบำดิบอำจจะมี
อินทรียสำรและพวกเกลือละลำยผสมอยู่ รวมทังชินส่วนของแร่ประกอบหิน ทรำย ดิน หรือ
สำรประกอบคำร์บอเนต (carbonate) ในปริมำณต่ำง ๆ กัน สมบั ติ ท ำงฟิ สิ ก ส์ ข องดิ น เบำใน
แหล่งสะสมที่แห้งแล้งซึ่งเป็นแหล่งสะสมที่ส้ำคัญของโลกมักจะมีน้ำหนักเบำ สีค่อนข้ำงขำว
หรือสีครีมคล้ำยกับพวกชอล์ก โดยทั่วไปแหล่งดินเบำที่เกิดในแอ่งน้ำจืดมักจะมีสำรอินทรีย์
ปะปนอยู่ด้วย สำรที่ปรำกฏมักจะท้ำให้สีแตกต่ำงออกไปจำกสีน้ำตำลอ่อนหรือสีเทำอ่อนถึงสี
น้ำตำลเขียวหรือเกือบด้ำ ซึ่งยำกแก่กำรแยกจำกสำรพวกที่คล้ำยถ่ำนหิน (peat like material)
205
ในโครงสร้ำงของดินเบำอำจจะเป็นแบบเนือแน่นหรือเป็นลำย ควำมแข็งของอนุภำคดินเบำตำม
สเกลควำมแข็งมำตรฐำนโมห์ (Mohs’ Scale of Hardness) อยู่ระหว่ำง 4.5 – 6 แต่ควำมแข็ง
ปรำกฏของแร่ดิ นเบำเนือแน่นประมำณ 1.5 ทังนี เนื่องจำกควำมหนำแน่นปรำกฏน้ อยและ
ควำมร่วนของเนือดินที่มีรูพรุน ควำมถ่วงจ้ำเพำะของดินเบำเมื่อบริสุทธ์ประมำณ 2.1 – 2.2
และเมื่อแห้งจะมีควำมถ่วงจ้ำเพำะน้อยกว่ำ 1 ดังนันแร่ดินเบำจะลอยน้ำได้จนกว่ำจะอมน้ำจน
อิ่มตัว ควำมหนำแน่นปรำกฏ 5 – 16 ปอนด์ต่อลูกบำศก์ฟุต ควำมหนำแน่นเมื่อเปียก 10 –
20 ปอนด์ต่อลูกบำศก์ฟุต ดัชนีกำรหักเหของแสง 1.42 – 1.48 ไม่ละลำยในกรดแต่ละลำยได้
ง่ำยในด่ำง
ประโยชน์ในทำงด้ำนอุตสำหกรรมของดินเบำอำจแบ่งออกได้ดังนี
5. ไพโรฟิลไลต์ (pyrophillite)
แหล่งที่พบไพโรฟิลไลต์ในประเทศไทยคือที่เขำชะโงก ต้ำบลเขำชะโงก อ้ำเภอบ้ำนนำ
จั ง หวัด นครนำยก ชำวบ้ ำนเรียกไพโรฟิ ล ไลต์ ว่ำหิ น สบู่ ซึ่ ง กรมทรัพ ยำกรธรณี กระทรวง -
อุตสำหกรรมได้ วิเครำะห์แล้ วพบว่ำ แร่ไพโรฟิ ลไลต์นี มี ชื่ อว่ำดิก ไกต์ (dickite) ต่อมำบริษั ท
ปูนซีเมนต์ไทยจ้ำกัดได้ส้ำรวจพบแหล่งใหม่ที่ต้ำบลซ้ำผักแผว อ้ำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
แร่ไพโรฟิลไลต์ที่พบเกิดเป็นสำยแร่แทรกอยู่ในระหว่ำงหินควอตซ์เนือละเอียด (chalcedonies
quartz) กำรใช้ประโยชน์ของไพโรฟิลไลต์คือใช้ผสมท้ำอิฐทนไฟและดินทนไฟ นอกจำกนี
207
ใช้เป็นวัตถุดิบในส่วนผสมของวัสดุเซรำมิกส์ เช่นพวกเครื่องสุขภัณฑ์และใช้ท้ำปูนซีเมนต์ขำว
6. ผงถ่านไม้
กำรน้ำผงถ่ำนไม้มำใช้จะต้องน้ำมำบดให้เป็นผงละเอียด กรองผ่ำนตระแกรง 100 เมช
และน้ำมำผสมลงในเนือดินปั้นเพื่อเป็นกำรเพิ่มรูพรุนขนำดเล็กให้กับไส้กรองเซรำมิกส์ เมื่ อ
ผงถ่ำนได้รับควำมร้อนสูงจะถูกเผำไหม้และสลำยตัวไปท้ำให้เกิดช่องว่ำงมำกขึน ทังนีเพรำะ
ผงถ่ำนไม้เป็นสำรประกอบคำร์บอนสำมำรถถูกเผำไม้เป็นกำซคำร์บอนไดออกไซด์ที่อุณหภูมิ
ไม่ เกิน 1,000 องศำเซลเซี ยส นอกจำกนีผงถ่ำนไม้ ในอัตรำส่วนผสมของไส้กรองเซรำมิ กส์
จะช่วยให้สำรกรองเซรำมิกส์นีมีน้ำหนักเบำขึน
การผลิตสารกรองเซรามิกส์
1. กรรมวิธีการผลิตแบบการอัด
กำรผลิตสำรกรองเซรำมิกส์โดยวิธีอัดจะใช้กับสำรกรองเซรำมิกส์ที่มีลักษณะเป็นแผ่น
อำจเป็นรูปทรงกลม สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม หรืออื่น ๆ กำรขึนรูปท้ำได้โดยกำรอัดดินผง (powder)
ลงในแบบพิมพ์ปลำสเตอร์หรือแบบพิมพ์โลหะ ซึ่ง อำจจะใช้แรงคนหรือเครื่องอัดไฮดรอลิก
(hydraulic press) กำรควบคุมคุณ ภำพของกำรขึนรูปสำรกรองเซรำมิกส์โดยกำรอัดนีต้อง-
ควบคุมปริมำณควำมชืนของเนือดิน น้ำหนักของผงดินที่ใช้ในกำรขึนรูปแต่ละครัง รวมถึงแรง-
อัดที่ใช้ในกำรอัดขึนรูป หลังจำกได้สำรกรองเซรำมิกส์ ที่ขึนรูปได้ตำมควำมต้องกำรแล้วต้อง
208
กระบวนการผลิตสารกรองเซรามิกส์
แบบการอัด แบบหล่อน้าดิน
ผงดิน น้าดิน
อัดขึนรูป หล่อแบบกลวง
ท้าให้แห้ง
ตกแต่ง
ตรวจสอบสมบัติของผลิตภัณฑ์
ภำพที่ 6.2 กระบวนกำรผลิตสำรกรองเซรำมิกส์
ที่มำ (เทิดพงษ์ ประเสริฐวิกัย, 2524, หน้ำ 54 – 56)
บทสรุป
กำรกรองได้แก่กำรแยกสิ่งปฏิกูลออกจำกของไหลโดยผ่ำนสำรกรองที่มีลักษณะเป็นรู
พรุน หรือเป็นเม็ดขนำดเล็ก มีช่องว่ำงให้น้ำไหลผ่ำนโดยแรงโน้มถ่วงของโลกหรือใช้แรงกล เช่น
แรงดันและแรงหนีศูนย์กลำง แต่สิ่งปฏิกูลไม่สำมำรถผ่ำนช่องว่ำงของสำรกรองไปได้ โดยกำร-
กรองมี 2 ประเภทคือกำรกรองโดยใช้ควำมดันคงที่และกำรกรองโดยให้อัตรำกำรไหลของของ-
เหลวคงที่ ซึ่งกำรกรองแต่ละประเภทนันมีสำรกรองที่จะเลือกใช้ตำมควำมเหมำะสมกับลักษณะ
กำรกรองได้ 7 ประเภทคือ สำรกรองเส้นใยที่ทอจำกไนล่อน ขนแกะ ด้ำย ผ้ำ กระดำษ หรือ
ฝอยแก้วและฝอยโลหะ สำรกรองทรำยเป็นสำรกรองที่หำง่ำยและรำคำถูก สำรกรองถ่ำนหิน -
แอนทรำไซด์ที่นิยมใช้ในหม้อไอน้ำเพรำะไม่ท้ำให้เกิดตะกรัน สำรกรองถ่ำนไวสำมำรถดูดสีและ
กลิ่นได้ สำรกรองดินเบำที่มีควำมละเอียดสูงแต่อุดตันได้เร็ว สำรกรองทรำยเฟอโรมีสมบัติ
ในกำรกรองและช่วยดูดซับกลิ่นเพรำะมีประจุไฟฟ้ำ และสำรกรองเซรำมิกส์ที่มีควำมพรุนตัวสูง
แข็งแกร่ง ใช้งำนที่อุณหภูมิสูงได้ และทนต่อกำรเกิดสนิมและกำรขัดถู ซึ่งสำรกรองเซรำมิกส์
สำมำรถผลิ ตได้ 2 ลั กษณะคือเป็ นแผ่นกลมและเป็นทรงกระบอกกลวง โดยมี วิธีกำรผลิตที่
แตกต่ำงกันแต่วัตถุดิบที่ใช้ส่วนมำกได้แก่ ดินขำว ดินด้ำ หินเขียวหนุมำน ดินเบำ ไพโรฟิลไลต์
และผงถ่ำนไม้
211
แบบฝึกหัดประจาบทที่ 6
คาสั่ง ตอบค้ำถำมต่อไปนี
1. กำรกรองหมำยถึงกำรปฏิบัติเช่นไร
2. สำรกรองมีลักษณะอย่ำงไรและมีบทบำทอย่ำงไรในกำรกรอง
3. กำรกรองจะเกิดขึนได้จะต้องเกี่ยวข้องกับกำรใช้แรงชนิดใดได้บ้ำง
4. ควำมต้ำนทำนกำรไหลในกำรกรองเกิดขึนเพรำะสำเหตุใดและมีวิธีกำรแก้ไข
อย่ำงไร
5. สำรช่วยกรองมีสมบัติอย่ำงไร และยกตัวอย่ำงสำรช่วยกรองมำ 3 ชนิด
6. กำรกรองมีกี่ประเภท อะไรบ้ำง และมีหลักกำรปฏิบัติอย่ำงไร
7. สำรกรองหมำยถึงอะไร และยกตัวอย่ำงสำรกรองมำ 5 ชนิด
8. เส้นใยที่ใช้ส้ำหรับกำรกรองได้แก่วัสดุอะไรบ้ำง และสำรกรองเส้นใยมีสมบัติ
เหมำะสมต่อกำรใช้งำนลักษณะใด
9. สำรกรองทรำยมีข้อดีอย่ำงไร
10. สำรกรองถ่ำนหินแอนทรำไซต์เหมำะสมต่อกำรใช้งำนในลักษณะใด
11. สำรกรองถ่ำนไวมีข้อดีอย่ำงไร
12. สำรกรองดินเบำมีลักษณะเฉพำะอย่ำงไร และเหมำะสมกับกำรใช้งำนลักษณะใด
13. ทรำยเฟอโรมีสมบัติอย่ำงไร และมีข้อดีอย่ำงไร
14. สำรกรองเซรำมิกส์มีสมบัติอย่ำงไร
15. วัตถุดิบที่ใช้ในกำรผลิตสำรกรองเซรำมิกส์มีอะไรบ้ำง และมีสมบัติอย่ำงไร
16. สำรกรองเซรำมิกส์มีวิธีกำรผลิตอย่ำงไร
212
เอกสารอ้างอิง
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
เพื่อให้ผู้เรียนสร้ำงสำรกรองเซรำมิกส์และทดสอบกำรใช้งำนได้
งานที่มอบหมาย
ให้ผู้เรียนสร้ำงสำรกรองเซรำมิกส์ชนิดไส้กรองทรงกระบอกกลวง ทดสอบกำรใช้งำน
และท้ำรำยงำนผลกำรสร้ำงและกำรทดสอบดังกล่ำว
การวัดผลและการประเมินผล
1. กำรวัดผล
1.1 ปริมำณงำนที่ท้ำได้ตำมก้ำหนดเวลำ
1.2 ควำมถูกต้องและควำมสะอำดเรียบร้อยของรำยงำน
2. กำรประเมินผล
คะแนนสะสม 10 คะแนน